การรักษาทางทันตกรรมเด็กกับการจัดฟัน

การเข้ารับการจัดฟัน ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมเด็กอย่างหนึ่ง ที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้แทบจะทุกกรณี แต่การจัดฟันนั้น ก็มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันที่สวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น การจัดฟันแบบใส การจัดฟันแบบเร็ว ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบต่างๆที่กล่าวมานั้น ก็จะมีข้อแตกต่างกันออกไป มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และแก้ไขปัญหาได้แตกต่างกัน

เช่นเดียวกับการจัดฟันในเด็กและการจัดฟันในผู้ใหญ่ แน่นอนว่าก็จะมีความแตกต่างกัน เพราะการจัดฟันในเด็กจะมีการใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน หลายคนเคยจัดฟันในตอนเด็กและอาจจะละเลยในการสวมใส่เครื่องมือที่ต้องใส่หลังการจัดฟัน เพื่อช่วยคงสภาพฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม พอโตมาก็อาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมา จนต้องเข้ารับการจัดฟันอีกครั้ง ก็จะเห็นในข้อแตกต่างระหว่างการจัดฟันในเด็กกับการจัดฟันตอนโต

ทันตกรรมเด็กในการจัดฟันถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจะมีความจำเป็นมากเท่าไหร่ แต่การที่เราปลูกฝังหรือส่งเสริมบุตรหลานของท่านในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณสุขภาพช่องปากและฟันที่มีความผิดปกติของการขึ้นของฟัน หรือแม้กระทั่งการที่บุตรหลานของท่านมีพฤติกรรมการดูดนิ้ว จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟัน

การจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพราะการจัดฟันในเด็กนั้น ทันตกรรมเด็กแนะนำว่าสามารถเริ่มจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 7-15 ปี เพราะในวัยนี้ ฟันน้ำนมจะหลุดออกหมดแล้ว และฟันแท้ก็ขึ้นครบแล้ว ซึ่งการจัดฟันในเด็ก ถือว่าเป็นประโยชน์ นอกจากจะทำให้เด็กมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามตั้งแต่เด็กแล้ว ยังสามารถทำให้เด็กมีรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจและยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ เมื่อมีฟันเรียงสวย ไม่ซ้อนเก เด็กก็จะแปรงฟันได้ง่ายขึ้น

สำหรับการจัดฟันตอนโตนั้น ถือว่าเป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมมาก เพราะผู้ใหญ่บางคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่มีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพ การรับประทานอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้การบดเคี้ยวอาหารนั้น ไม่ดีเท่าที่ควร และยังส่งผลต่อการทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วย ถ้าหากเราทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดี ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาช่องปากตามมาได้ จึงเลือกใช้วิธีการเข้ารับการจัดฟัน เพื่อที่จะช่วยแก้ไขปัญหาฟัน แต่การจัดฟันสำหรับผู้ใหญ่ ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า การจัดฟันในผู้ใหญ่อาจจะช้ากว่าการจัดฟันในเด็ก และมีข้อจำกัดมากกว่าเด็ก

เนื่องจากเด็กอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี การเคลื่อนฟันในเด็กเลยมักง่ายกว่า มีผลแทรกซ้อนน้อยกว่า ต่างกับการจัดฟันในผู้ใหญ่ที่ร่างกายเริ่มมีความเสื่อมถอย แต่อย่างไรก็ตามทันตกรรมเด็กก็จะต้องดูความเหมาะสมตามภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย

คุณสมบัติของเครื่องกรองน้ำดื่มควรเป็นอย่างไร

“น้ำดื่ม” เป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ในชีวิตประจำวันของเราใช้น้ำสะอาดสำหรับดื่มและประกอบอาหาร ดังนั้น “เครื่องกรองน้ำ” จึงกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญประจำบ้าน ใช้กรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำ และรักษาแร่ธาตุในน้ำที่จำเป็น ก่อนจะเลือกเครื่องกรองน้ำ ต้องทราบลักษณะของน้ำที่จะผ่านเครื่องกรอง เช่น น้ำบาดาล หรือ น้ำประปา เพื่อเลือกไส้กรองที่เหมาะสมกับลักษณะของน้ำ นอกจากนี้ต้องทราบจำนวนสมาชิกภายในบ้าน เพื่อเลือกกำลังผลิตน้ำได้เพียงพอต่อวัน

เครื่องกรองน้ำในครัวเรือนแบ่งคร่าวๆ ได้ 2 ประเภท คือ เครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม

  • เครื่องกรองน้ำใช้ เป็นเครื่องกรองน้ำประปา หรือ กรองน้ำบาดาลก่อนเข้าสู่ระบบท่อน้ำดีในบ้าน เพื่อคัดกรองแร่ธาตุ และสิ่งสกปรก ที่อาจเข้าสู่ระบบน้ำดีภายในบ้าน ทำให้ท่ออุดตัน และขึ้นสนิม มักใช้คู่กับปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำดี
  • เครื่องกรองน้ำดื่ม เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูงขึ้น ด้วยไส้กรองหลายชั้น คัดกรองอนุภาคและสิ่งสกปรก บางรุ่นมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ต่อกับน้ำประปาเพื่อกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน

น้ำดื่มที่เรานำมาใช้บริโภคกันนั้น มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติและโรงงานทำน้ำประปา จากในอดีตมีวิธีทำให้น้ำบริสุทธิ์ ดังนี้

  1. ใส่สารเคมีลงในน้ำ เช่น คลอรีน, สารส้ม ในอดีต ก่อนนำน้ำมาใช้ดื่มเราใช้วิธีทำให้น้ำตกตะกอนด้วยการแกว่งสารส้ม หรือหยดคลอรีน ทิ้งไว้ค้างคืน วิธีการกรองแบบนี้แยกได้เฉพาะส่วนที่เป็นตะกอน แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคขนาดเล็กได้ จึงต้องนำน้ำไปต้มก่อนดื่ม
  2. ใช้ไส้กรองคาร์บอน (หรือถ่าน) ลำดับต่อมามีการคิดค้นวิธีทำน้ำให้บริสุทธิ์ด้วยการผ่านไส้กรองคาร์บอน เพื่อดักจับธาตุต่างๆ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ทำให้น้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือใช้กรองน้ำที่ผ่านคลอรีนมาแล้ว
  3. ใช้ไส้กรองอื่นๆ เช่น ซิลิกา (หรือทราย) หลังจากวิธีนำคาร์บอน หรือถ่าน มาช่วยดูดกลิ่นคลอรีน ก็มีการค้นคว้าส่วนประกอบอื่นๆ มาใช้กับไส้กรอง เพื่อให้น้ำบริสุทธิ์มากขึ้น ในช่วงเวลาต่อมาใช้ทราย หรือซิลิกามาเป็นไส้กรองเครื่องกรองน้ำ และมีไส้กรองบางประเภทที่ดักจับจุลินทรีย์ขนาดเล็กไม่ให้ปนเปื้อนมากับน้ำได้ด้วย
  4. ใช้ระบบ RO (Reverse Osmosis) เมื่อมีการค้นพบไส้กรองที่ช่วยให้น้ำบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ก็มีวิธีการคิดค้นใช้ไส้กรองหลายๆ ชั้นร่วมกัน เพื่อให้น้ำผ่านเครื่องกรองน้ำได้สะอาดที่สุด น้ำที่ผ่านระบบ RO (Reverse Osmosis) เป็นที่ยอมรับในการใช้ดื่ม นำมาประกอบอาหาร เครื่องกรองน้ำระบบ RO ใช้หลักการให้ผ่านไส้กรองหลายชั้นและผ่านเยื่อคัดกรองอนุภาคอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้มั่นใจในความสะอาด
  5. ใช้แสงยูวีฆ่าเชื้อ (UV Filters) การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในเครื่องกรองน้ำ เริ่มใช้เทคโนโลยีแสงยูวีมาใช้ฆ่าเชื้อ ด้วยคลื่นแสงที่มีประสิทธิภาพทำลายดีเอ็นเอของเชื้อโรคได้ ทำให้เครื่องกรองน้ำชนิดนี้กำจัดสิ่งสกปรกได้ถึง 99% จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

คุณสมบัติของเครื่องกรองน้ำดื่ม

  • ประกอบด้วยไส้กรองที่กำจัดสิ่งสกปรกพื้นฐาน ได้แก่ ตะกอน, คลอรีน, เชื้อจุลินทรีย์ และกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • วัสดุตัวเครื่องกรองน้ำ ทนทาน ไม่แตกหักง่าย ไม่มีสารที่เป็นพิษต่อร่างกายอย่าง BPA และไม่เป็นสนิมง่าย
  • ได้มาตรฐานการผลิตจาก มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม (สมอ.)